Scroll to Begin
อาคารสภาที่เคยเงียบสงบราวกับป่าช้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อเหล่านักรบศาสนาพร้อมอาวุธครบครันเริ่มทยอยเข้ามาข้างใน เบียดเสียดกันกับชาวบ้านที่พยายามวิ่งหนีออกไป
ผู้พิพากษาอินทรีย์บีบเศษเปลือกเกาลัดจนแตก เสียงเปลือกถูกกะเทาะออกดังไปทั่วอาคาร
“ความสมดุลจะต้องคืนกลับมาสู่อาคารนี้” เธอกล่าว
เสียงกรีดร้องของผู้คนเงียบหายไปในพริบตา พวกเขากลับมานั่งที่ม้านั่งกันอย่างรวดเร็ว ชายปริศนาในผ้าคลุมเกาจมูกของตน ก่อนจะไปสำรวจรอยดำบนผนังอาคาร นักรบศาสนาค่อย ๆ เข้าไปสำรวจอาวุธเวทมนตร์ที่วางอยู่
นอกจากเศษซากของขาโต๊ะแล้วนั้น ก็เหลือแต่เพียงดาบและฝักของมัน ในเศษซากของดาบมีแสงสีเขียวเรืองรอง เขาต้องใช้แรงจากทั้งสองมือเพื่อดึงด้ามของดาบขึ้นมา
“เอาของต้องสาปนั่นไปให้พ้น!” เสียงตะโกนจากชาวบ้านดังขึ้น นักรบศาสนานำดาบเก็บเข้าฝัก
“ข้าเป็นคนฆ่าเขาเอง” Riven ย้ำ เสียงนั้นเป็นเสียงจากอดีตที่หลอกหลอนเธอมานานเนิ่น สายตาของเธอทอดมองไปยังชาวบ้านในอาคาร ความทรงจำของเธอคืนกลับมาแล้ว
“Riven” ผู้พิพากษาเรียกชื่อเธอ
สติของ Riven ถูกดึงกลับมาจากดาบเล่มนั้น
“เจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” เธอถาม
Riven ผงกหัว
“เจ้าทำลงไปทำไม”
“ข้าจำไม่ได้” นั่นคงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอจะตอบได้ หากเพียงไม่มีโซ่ตรวนที่ล่ามมือของเธอเอาไว้ เธอคงจะปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองได้
ผู้พิพากษานิ่งเงียบ เฝ้ารอคำตอบอื่นใดที่อาจจะออกมาจากปากของเด็กสาวได้อีก แต่เมื่อความเงียบคือคำตอบ เธอจึงหันไปหาปลัด
“Riven เจ้าจะถูกคุมขังอยู่ในอาคารนี้จนถึงรุ่งสาง เพื่อให้ผู้ที่ต้องการจะคุยกับเจ้าได้มีโอกาสคุย ก่อนเจ้าจะถูกตัดสินโทษ”
Riven มองไปที่โซ่ตรวนบนมือ
“ผู้พิพากษาคนอื่น ๆ จะหารือกับเหล่า Elders ถึงโทษที่เหมาะสมกับเจ้า”
ชาวบ้านออกจากอาคารเงียบ ๆ คู่สามีภรรยาเป็นคู่สุดท้ายที่จะเดินออกจากประตูนั้นไป Riven รู้เพราะเธอได้ยินเสียง Shava คุยกับชายชราในภาษาท้องถิ่นของเธอ แม้น้ำเสียงจะสั่นเครือเสียจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ก็ตามที เมื่อเสียงฝีเท้าคู่สุดท้ายก้าวข้ามประตูไป Riven เงยหน้าขึ้นมามองอาคารที่ปราศจากสิ่งมีชีวิต—เหลือเพียงแต่อดีตของเธอที่ยังคงอยู่ตรงนั้น
คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงสว่างของพระจันทร์ถูกส่องเข้ามาในอาคาร แต่ไม่อาจส่องมาถึงตัว Riven ที่อยู่ข้างในได้ ตลอดทั้งวัน ไม่มีผู้ใดมาพูดคุยกับ Riven แม้นักรบศาสนาจะเก็บดาบไปแล้ว แต่ร่องรอยการทำลายล้างของมันยังคงทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว บ้างจึงหยุดแค่เพียงหน้าประตู และปาไข่เน่าใส่ Riven แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Riven รู้สึกอะไรแต่อย่างใด ในที่สุด ร่างกายของเธอก็อ่อนล้ามากพอที่จะให้เธอหลับลง แต่มันเป็นการนอนหลับของคนที่รู้ดีว่า เช้าที่จะมาถึงนี้ จะเป็นเช้าสุดท้ายที่เธอได้เห็นกับตาตัวเองอีกต่อไป เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้ากลางดึก เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที
Riven ลืมตาขึ้นมามองคนที่อยู่ตรงหน้า
“O-fa” เธอกล่าว “ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
“มันดูเหมือนข้ามาทำอะไรล่ะ เด็กน้อย?” แสงจันทร์เผยให้เห็นรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของเขา
“เจ้านั้นดื้อรั้น อยากจะตายให้ได้เสียเหลือเกิน” เขาดุเธอ “นี่ไม่ใช่วิธีที่เจ้าจะหาความสงบได้”
เขาปลดล็อคโซ่ตรวนที่พันธนาการข้อมือและข้อเท้าเธอออก แม้ในใจเธอจะสั่งให้ผลักเขาออกไป แต่ร่างกายเธอกลับไม่ทำตาม หัวใจของเธอไม่อาจทำมันได้ลง หากคนสุดท้ายที่จะอยู่กับเธอก่อนตายคือชายชราคนนี้ เธอก็อยากจะหยุดเวลาไว้เสียเหลือเกิน เธอนั่งนิ่งอยู่สักพัก จนกระทั่งเสียงฝีเท้าหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ Riven หันไปมอง Asa ที่กำลังแกว่งโซ่ตรวนของเธอเล่นราวกับเป็นเด็ก
“O-fa รีบซ่อนตัว เร็วเข้า ใครบางคนกำลังมาที่นี่” น้ำเสียงของ Riven ทำให้ชายชรารีบหลบเข้ามุมมืด Riven ก้มหัวลง ปล่อยให้ผมปรกใบหน้าของเธอ แสร้งทำเป็นหลับ
สายลมที่รุนแรงพัดผ่านต้นไม้ และประตูอาคารเข้ามา ปรากฏให้เห็นร่างของชายคนหนึ่ง
ผ้าคลุมที่เคยปิดหน้าชายปริศนาไว้ ถูกเอามาพาดบ่าไว้แทน เผยให้เห็นดาบและโล่ที่ไหล่ของเขาอย่างชัดเจน เขาหยุดยืนอยู่ตรงทางเข้าประตูเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่ต่างออกไป คือเขาก้าวฝีเท้าเดินเข้ามาข้างใน ไม่มีเสียงฝีเท้าในย่างก้าวของเขา และเขาก็หยุดตรงหน้า Riven
เขาหยิบฝักดาบที่ถูกสลักไว้ด้วยรูนออกมา และโยนมันไปหา Riven
“อะไรมันหนักกว่ากันหรือ Riven?” เขาถาม “ดาบ หรืออดีตของเจ้า?”
เธอรู้ว่าการแกล้งหลับไปนั้นไม่ได้ผลอะไรกับชายคนนี้ เธอเงยหน้ามองเขา
“เจ้าคือใคร?” เธอถาม
“ดาบที่แตกหักอีกคนหนึ่ง” เขาตอบ “เจ้ายินดีรับผิด เรื่องนั้นข้าขอชื่นชม”
Riven สังเกตได้ว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เรื่องของดาบเจ้า มันมีอะไรมากกว่านั้น” เขากล่าวต่อ “เจ้าอยากรู้ความจริงไหม?”
“ข้าฆ่าเขา เขาตายเพราะข้า ทุกคนต้องมาตายเพราะข้า” Riven ตอบ เธอไม่แน่ใจนักว่าเธอจะรับความรู้สึกผิดมากกว่านี้อีกได้ไหม
“หยิบดาบของเจ้าขึ้นมา”
Riven ลุกขึ้นนั่งตรง น้ำเสียงที่ซ่อนความขุ่นหมองไว้ของชายปริศนามันช่างดังเสียเหลือเกิน
“ลุกขึ้น แล้วเผชิญหน้ากับอดีตของเจ้าซะ” เขากล่าว
สายลมที่แรงพอจะล้มม้านั่งในอาคารก่อตัวขึ้นอีกครั้ง มันผลักให้ Riven ล้มลง แต่ด้วยสัญชาติญาณนักสู้ของเธอ ทำให้เธอยังยืนค้ำตัวเองไว้อยู่ได้ เธอกำดาบในมือไว้แน่น
“ข้าขอให้เขาทำลายมัน” เธอพูด
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงเย้ยหยันของชายปริศนามันชัดเจนนัก
คำถามนั้นกระตุ้นความทรงจำของ Riven อีกครั้ง ภาพเลือนรางปรากฏขึ้นในหัวของเธอ น้ำเสียงของ Elder Souma ช่างอ่อนโยน เขาไม่ตัดสินเธอเลยสักนิด
Riven จ้องมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความโกรธในตัวเธอกำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง มือของเธอค่อย ๆ ดึงดาบออกจากฝัก
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” เธอถาม
พลังในดาบกำลังตื่นตัวขึ้นมา
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยากตาย” ชายปริศนายิ้ม
เหล่าวิญญาณจากอดีตได้พยายามเข้าโจมตี เธอแกว่งดาบไปมาเพื่อไล่มันออกไป ดาบของชายปริศนาโอบอุ้มความรู้สึกชิงชัง และความเศร้าสร้อยไว้มากมายนัก มันทำให้สติของ Riven กลับมาสู่ปัจจุบัน พวกเขาเริ่มเข้าปะทะกัน
“ข้ามาที่นี่เพื่อฆ่าฆาตกรที่ฆ่าอาจารย์ของข้า” เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ข้ามาเพื่อฆ่าเจ้า”
Riven หัวเราะ ในดวงตามีน้ำตานอง “งั้นก็ฆ่าข้าเลยสิ”
นักรบแห่งลมลดดาบของเขาลง และควบคุมสายลมไว้ที่ดาบ เขาเพ่งพลังไปที่ดาบรูน เวทมนตร์ของ Noxus ภายในดาบเริ่มสั่นคลอน เศษดาบกระจายตัวออกจากกันชั่วครู่ ปล่อยซิลเวอร์ออกมาข้างหน้า
เมื่อพลังปะทะกัน ซิลเวอร์ก็แตกออก และพุ่งไปยังทิศทางที่ Asa ซ่อนตัวอยู่ แม้เศษซิลเวอร์จะเล็ก แต่มันก็สามารถปลิดชีวิตชายชราได้โดยง่าย ความทรงจำในห้องสมาธิของ Elder Souma ทำให้ Riven แทบคลั่ง
“ไม่นะ!” เธอตะโกน พลางทิ้งดาบในมือ หรืออดีตจะซ้ำรอยอีกครั้ง
ก่อนที่เศษซิลเวอร์จะได้ปาดคอชายชรา มันกลับถูกหยุดโดนสายลม ชายปริศนาถอนหายใจออกมายาว ๆ เศษซิลเวอร์ที่ลอยอยู่ตกลงบนพื้น
“Master Konte ท่านโชคดีนะที่ท่านหายใจแรงน่ะ” ชายปริศนากล่าว
Riven วิ่งโผเข้ากอดชายชรา เธอมองไปที่ชายแปลกหน้า รอบตัวเขายังคงมีสายลมหมุนเวียนอยู่
“มันคือเรื่องจริง” เขาเดินเข้ามาหาทั้งคู่ พลางหยิบเศษดาบขึ้นมา ความโกรธของเขาหายไป กลายเป็นความเข้าอกเข้าใจ “เจ้าอาจจะทำให้ Elder Souma ตาย แต่เจ้าไม่ได้เป็นคนฆ่าเขา”
“ข้าขอโทษ ข้าเสียใจ” นี่คือช่วงเวลาที่ Riven โหยหามาตลอด ร่างกายของเธอสั่นเทา
“ข้าไปหาเขา ข้าขอร้องเขา...” เสียงสะอื้นของ Riven ทำให้คำพูดของเธอตะกุกตะกัก “ข้าขอร้องให้เขาช่วยข้า ช่วยทำลายมัน ทำลายตัวข้าทิ้ง”
“Elder Souma พยายามทำลายดาบเจ้า” เสียงของชายปริศนาหนักแน่น “แต่เราไม่อาจทำลายอดีตของเจ้าทิ้งได้ Riven”
Riven รู้ดีว่า การต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำที่ตายไปแล้วมันเป็นอย่างไร เธอเข้าใจได้ทันทีว่า ชายคนนี้ก็กำลังแบกรับอดีตของตนเองไว้เช่นกัน เขาถอนหายใจอีกครั้ง
“หน้าที่ปกป้อง Elder Souma เป็นของข้า หากเพียงคืนนั้น... ข้าอยู่ตรงนั้น... ข้าอาจปกป้องเขาได้ มันไม่ใช่เจตนาของเจ้าที่จะฆ่าเขา” เมื่อนักรบมาเจอกัน พวกเขาย่อมรู้จักกันดี ชายปริศนาหันไปสบตากับ Riven “ท้ายที่สุดแล้ว ความผิดนั้นก็เป็นของข้า”
“Yasuo?” ชายชราเพ่งมองไปที่หน้าของชายปริศนา พลางชี้นิ้วไปที่เขา “การที่เจ้ากล้ายอมรับเรื่องนี้ มันช่างสมกับศักดิ์ศรีที่เจ้ามีจริง ๆ ”
“ศักดิ์ศรีของข้ามันตายไปนานแล้ว O-fa” Riven มองเห็นภาพของตัวเองใน Yasuo ที่เคยปฏิเสธความหวังแม้เพียงน้อยนิด หรือแม้แต่การได้รับการให้อภัย ชายหนุ่มส่ายหัวไปมา “ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว นำไปสู่เรื่องราวอื่น ๆ อีกมากมาย นี่คือบทลงโทษของข้า”
บทสนทนาถูกขัดด้วยเสียงก้อนกรวดตามทางเดินที่ดังขึ้น ผู้หญิงที่มีใบหน้าเป็นนกอินทรีเดินเข้ามาในอาคาร เธอมองดูร่องรอยการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคน เธอหยุดเดินช้า ๆ ตรงหน้า Riven และชายชรา เมื่อเธอเห็นชายแปลกหน้า เธอหันไปสบตาเขาทันที
“การรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง คือก้าวแรกสู่การไถ่โทษนะ Yasuo” เธอกล่าว
“แล้วก้าวที่สองล่ะ?” Yasuo ถาม
Yasuo ไม่หลบสายตาหนีไปจากผู้พิพากษา ทุกสิ่งในห้องนี้ราวกับมันถูกหยุดเวลาเอาไว้
เสียงของผู้พิพากษาดังขึ้นในความเงียบนี้ “จงให้อภัยตัวเอง”
Riven มองไปยัง Yasuo ผู้ซึ่งไม่สามารถทำใจรับกับคำพูดของเธอได้ เขาไม่สามารถทำมันได้ Riven เคยอยากตายมานานแสนนาน แต่เมื่อเธอเห็น Yasuo เธอจึงเข้าใจได้ว่า สิ่งที่ยากยิ่งกว่าความตาย คือการมีชีวิตอยู่ต่อกับความผิดที่ก่อขึ้น Yasuo หันมามอง Riven เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับอดีตตัวเองได้ไหม?
สิ่งที่เขาเลือก คือการหันหลังให้กับทุกคน และเดินตรงไปยังประตู Riven กุมมือชายชราเอาไว้
พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลอยตัวเหนือขอบฟ้า หากแต่ท้องฟ้ายังดูครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่ไม่น้อย เมื่อถึงเวลา นักรบศาสนาและผู้พิพากษาหน้าอินทรีย์ได้เดินทางมารับตัว Riven เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่า โซ่ตรวนถูกปลดล็อค และวางกองอยู่ข้าง ๆ ตัวเธอ Riven ลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง และเดินออกไปข้างนอก เพื่อเตรียมรับชะตากรรมของเธอ
ผู้พิพากษาคนอื่น ๆ และชาวบ้านมากมายต่างมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าอาคารสภา Riven เข้าใจว่า คงไม่มีใครอยากจะมายุ่งกับเธอ หรือแม้แต่ดาบรูนเล่มนั้น ลมเย็นอ่อน ๆ พัดผ่านไปมา
“หลังจากที่เราได้ตรวจสอบหลักฐาน และหารือกับเหล่า Elders แล้วนั้น หญิงสาวจาก Noxus จะได้รับบทลงโทษ” ผู้พิพากษากล่าว
เมื่อ Riven นึกถึงบ้านเกิด ขนตามตัวเธอก็ลุกชันขึ้นมา เธอเห็น Shava และ Asa ยืนเคียงข้างกันในกลุ่มผู้คนนั้น
“แม้การตัดสินโทษประหารจะง่าย แต่มันไม่ได้นำมาซึ่งความสมดุล” หัวหน้าผู้พิพากษาอธิบายต่อ “มันแทบไม่ช่วยฟื้นฟูความบอบช้ำของเราเลย”
ชาวบ้านต่างผงกหัวเห็นด้วย เมื่อ Riven มอง เธอเห็นเหล่าผู้คนที่ผ่านการสูญเสียมามากมาย; เด็ก ๆ ต้องกำพร้าพ่อแม่ บ้างก็เสียพี่น้องไป
“ดังนั้น สภาของเราจึงมีมติว่า เธอควรได้รับโทษที่โหดร้าย และมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่านั้น” เขาพูด “Riven จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
ผู้พิพากษามองไปที่ Riven
“โทษของเธอคือการใช้แรงงาน” ผู้พิพากษาประกาศ “เริ่มจากการทำงานที่ฟาร์มของ Master และ Mistress Konte”
เสียงฮือฮาจากชาวบ้านดังขึ้น
“และศาลต้องการให้ Riven ทำประโยชน์ให้กับสภาด้วยเช่นกัน รวมไปถึงผู้คนที่สูญเสียของรักไปในครั้งที่ Noxus รุกรานเรา”
ผู้พิพากษามองไปที่ Riven อย่างมีความหวัง “เจ้ายอมรับโทษนี้ไหม?”
ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่ Riven ความรู้สึกที่เอ่อล้นในใจของเธอทำให้คำพูดตะกุกตะกักอยู่ในลำคอ เมื่อเธอทอดสายตามองไปรอบ ๆ เหล่าวิญญาณจากอดีตที่ตามหลอกหลอนเธอ แม้จะไม่หายไป แต่กลับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับคนเป็น ช่างน่าแปลกใจนัก แต่ก็น่ายินดีมากเช่นกัน เธอยินดีที่จะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเธอคู่ควรกับโอกาสในครั้งนี้
“ยอมรับค่ะ” เสียงที่ออกมาจากปากของเธอฟังดูไม่คุ้นหูนัก มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความตื้นตัน
คู่สามีภรรยาโผเข้ากอด Riven เหมือนที่เธอก็เคยโอบกอดพวกเขาแบบนี้เช่นกัน
“Dyeda” Shava พูดพึมพำออกมา
“ลูกสาว” เธอกระซิบกลับ